ประมาณการรายได้ปี 65 ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตกี่ % จากปีก่อน งบลงทุนปี 65 วางไว้เท่าไหร่ และใช้ส่วนใดบ้าง

บริษัทมุ่งเน้นการเติบโตของจำนวนพัสดุให้สูงขึ้น 30% ต่อปีจากการต่อยอดกลยุทธ์ด้านราคาและการเพิ่มจุดให้บริการซึ่งเข้าถึงทุกพื้นที่ และในปี 65 จะบริหารต้นทุนต่อหน่วยให้ลดลง 20% สำหรับงบการลงทุนบริษัทได้จัดสรรไว้ปีละ 1,500-2,000 ล้านบาท โดยหลักๆ คาดว่าจะนำไปใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพแพลต์ฟอร์มการขนส่งพัสดุ รวมถึงรองรับการขยายตัวของธุรกิจใหม่ บริษัทจะยังคงให้ความสำคัญกับปริมาณและการเติบโตของจำนวนพัสดุเพื่อให้ได้ economies of scale หรือการประหยัดจากขนาด โดยให้ความสำคัญกับการรักษาความเป็นผู้นำในตลาด เพื่อมุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนในระยะกลางและระยะยาว

ครึ่งหลังของปี 2564 จัดว่าเป็นช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรง และกระจายอยู่ในหลายพื้นที่ ยากต่อการคาดการณ์การจัดสรรแรงงานทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมุ่งเน้นความปลอดภัยและสุขภาวะที่ดีของพนักงานและผู้ใช้บริการ และต้องเตรียมการรับมืออย่างรัดกุม และการเตรียมการทรัพยากรสำรองเพื่อยังคงคุณภาพการให้บริการที่ดีที่สุด บริษัทคาดว่าภาระค่าใช้จ่ายชั่วคราวที่เกิดขึ้นทั้งในไตรมาส 3 และ 4 จะค่อยๆ ลดลงตามสถานการณ์ Covid-19 ที่คลี่คลายลง ทั้งยังมีปริมาณการจัดส่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถกลับทำกำไรได้ภายในครึ่งปีหลังของปี 2565

ประเทศไทยจัดว่าเป็นประเทศขนาดกลาง ด้วยขนาดของตลาดนี้จะสามารถรองรับการแข่งขันและผู้เล่นได้เพียงไม่กี่ราย เห็นได้จากตัวอย่างของการรวมตัวกันของผู้เล่นในประเทศขนาดกลางและในหลายธุรกิจ เช่น กิจการโทรคมนาคม ร้านสะดวกซื้อ และเครื่องดื่มชูกำลัง ในระยะกลาง KEX คาดการณ์การควบรวมของผู้เล่นรายต่าง ๆ ในตลาดขนส่งพัสดุด่วน โดยใน 1-2 ปีที่ผ่านมาเราได้เห็นผู้เล่นรายย่อยหลายรายที่ไม่มีประสิทธิภาพในการทำกำไรและได้ออกจากตลาดไปเรียบร้อยแล้ว ในปี 2021 ที่ผานมา เราเป็นเพียงบริษัทเดียวที่ทำกำไร โดยบริษัทมุ่งเน้นการจัดการด้านราคา การบริการที่ดี และการประหยัดจากขนาด โดยหากเกิดการควบรวม เราจะมองหาผู้เล่นที่มีวัฒนธรรมองค์กรในรูปแบบที่คล้ายกัน และมุ่งเน้นการบริการที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างสูงสุด

ตามกลยุทธ์ของบริษัทที่วางไว้ บริษัทจะมุ่งเน้นการขยายธุรกิจไปในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการกระจายแหล่งที่มาของรายได้และกำไร ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการพิจารณาโอกาสการริเริ่มธุรกิจและการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งในส่วนที่บริษัทพัฒนาเอง และในส่วนที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตรชั้นนำในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น Kerry Cool และ Kerry XL บริษัทยังคงมองหาโอกาสอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าไว้ที่ 1-2 ดีลต่อปี จัดสรรงบประมาณไว้ปีละ 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากงบการเงินที่มีศักยภาพ เงินสดที่มีอย่างพอเพียง และหนี้เป็นศูนย์ รวมถึงผู้ถือหุ้นให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ดังนั้นในแง่ศักยภาพของการลงทุนทั้งในส่วนของ debt และ equity financing นั้น บริษัทยังทำได้อีกมาก

ตลาดขนส่งแช่เย็นแช่แข็ง มีมูลค่าตลาดสูงกว่า 3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากตลาดนี้ยังไม่มีผู้เล่นที่แข่งขันด้านราคา และยังไม่มีผู้เล่นที่นำเสนอบริการที่มีคุณภาพตอบโจทย์ลูกค้า จึงทำให้ราคาต่อ parcel สูงกว่าการส่งพัสดุด่วนทั่วไป 2-3 เท่า สำหรับ KEX ได้พัฒนาธุรกิจร่วมกับเครือเบทาโกร หนึ่งในผู้นำตลาดอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารคุณภาพครบวงจรของประเทศไทย โดยมีความต้องการในการใช้บริการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิมากกว่าล้านตันต่อปี และเป็นผู้ร่วมทุนในบริษัทย่อยของเราจัดตั้ง Kerry Cool จึงทำให้ Kerry Cool มีปริมาณการจัดส่งมารองรับตั้งแต่ช่วงแรกของการให้บริการ โดยในช่วงแรกจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ก่อนจะขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมลูกค้ารายย่อยตั้งแต่กลางปี 2565 เป็นต้นไป (ซึ่งถือว่าเร็วกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 2 ปีกว่า) บริษัทคาดว่าจะรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2566 โดยในระยะกลาง-ยาว บริษัทคาดว่า Kerry Cool จะเข้ามาสร้างรายได้ราว 20% ของรายได้รวม และมีอัตราการทำกำไรที่ดี

ในส่วนของ Kerry XL ที่ได้เซ็นทรัลรีเทลมาเป็น JV partner นั้น จะทำให้การบริการของ LTL เป็นไปแบบก้าวกระโดดตั้งแต่เริ่มต้นด้วยความต้องการของลูกค้า เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ทั้งจากแบรนด์ที่หลากหลายและฐานลูกค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศของเซ็นทรัลรีเทล โดยคาดว่าจะเปิดใช้บริการได้ประมาณไตรมาส 3 ของปี 2565

จากการเติบโตอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของราคา และจำนวนผู้เล่นในตลาดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา รวมถึงในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา e-commerce platform ต่างๆ ก็หยุดให้ข้อมูลจำนวนสินค้าที่ขายได้ ทำให้การคาดการณ์มูลค่าตลาดเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจำนวนพัสดุจัดส่งด่วนอยู่ที่ราว 3-4 ล้านชิ้นต่อวัน และคาดการณ์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 30% ตามพฤติกรรมผู้บริโภคและการโตของตลาด e-commerce/social commerce และเรามุ่งมั่นในการเป็นผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วยผู้เล่นเพียง 1-2 รายในตลาดเท่านั้น

การลงทุนในเงินลงทุนระยะสั้น ต้องสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากทั่วไป แต่ยังคงรักษาเงินต้น และคงไว้ซึ่งสภาพคล่องสูง ดังนั้น จึงเป็นการลงทุนในกองทุนในตลาดเงิน และตราสารหนี้ (Fixed Income) ระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี อีกส่วนหนึ่งซึ่งไม่มากนัก จะลงทุนใน Corporate Bonds อายุ 2-3 ปี ผลตอบแทนตามราคาตลาด อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันเป็นขาขึ้น บริษัทจึงยังคงพิจารณาการลงทุนที่มีระยะเวลาไม่ยาวเกินไป เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด

ขณะนี้ Kerry Wallet อยู่ในระหว่างการทดลองใช้กับลูกค้าบางกลุ่ม และคาดว่าจะสามารถเปิดใช้บริการแบบทั่วประเทศได้ภายในไตรมาส 2 ของปี 2565 ขึ้นอยู่กับการทดสอบระบบเพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นและคล่องตัวที่สุด

สัดส่วนของการใช้บริการเข้ารับพัสดุเทียบกับการเข้าใช้บริการหน้าร้าน ยังถือว่าค่อนข้างน้อยและกระจุกตัวอยู่ภายในเขตหัวเมืองต่างๆ อย่างไรก็ตามบริษัทคาดการณ์ว่าจำนวนการจัดส่งพัสดุจะเติบโตจากทั้ง 2 ช่องทาง ในส่วนของหน้าร้านจะเติบโตจากความร่วมมือกับ 4PL หรือตัวแทนไปรษณีย์เอกชนเพื่อเข้าถึงชุมชนและหมู่บ้านต่างๆ ทั่วไทย และการเข้ารับพัสดุจะเติบโตจากการที่บริษัทได้เป็นพาร์ทเนอร์กับ Grab ในการให้บริการเข้ารับพัสดุด่วน ซึ่งเป็นการขยายความครอบคลุมของบริการการเข้ารับพัสดุเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอย่างหลากหลายขึ้น

เราใช้การจ้างงานจากพนักงานภายนอกเป็นส่วนใหญ่ทั้งในรูปแบบบุคคลและบริษัท ซึ่งถูกควบคุมโดยมาตรฐานและการบริการของ KEX โดยเป็นการว่าจ้างบริษัทจัดหางาน ซึ่งจะช่วยในการสกรีนและสรรหาพนักงานในระดับหนึ่ง

บริษัทยึดมั่นต่อการลงทุนและการหาพันธมิตรในแนวคิด “ผู้ให้บริการที่เป็นกลาง” และลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตและความเชื่อมันอย่างยั่งยืนสำหรับผู้ถือหุ้นของเรา โดยในระยะสั้นเรายังไม่มีแผนการทำ e-commerce platform ในส่วนของสินเชื่อการเงินทางบริษัทได้มีการพาร์ทเนอร์กับ Rabbit Cash เพื่อให้บริการกับกลุ่มลูกค้าสมาชิก Kerry Express ในเบื้องต้นและยังอยู่ในช่วงการทดลอง